ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้กับสังคมสารนิเทศในปัจจุบันก่อให้เกิดการสื่อสารและการใช้ประโยชน์
จากสารนิเทศได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพประโยชน์ของเทคโนโลยีสารนิเทศมีดังต่อไปนี้
คือ
1. ช่วยให้ติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างสะดวกรวดเร็ว
โดยใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์หรือในรูปของ
สิ่งพิมพ์ต่าง
ๆ
2. ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจำนวนมหาศาล
ซึ่งผลิตออกมาในแต่ละวัน
3. ช่วยให้เก็บสารนิเทศไว้ในรูปที่สามารถเรียกใช้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างสะดวก
4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสารนิเทศ
เช่น
ช่วยนักวิทยาศาสตร์
วิศวกร ด้วยการช่วยคำนวณตัวเลขที่ยุ่งยาก
ซับซ้อนซึ่งไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยมือ
5. ช่วยให้สามารถจัดระบบอัตโนมัติเพื่อการเก็บ
เรียกใช้และประมวลผลสารนิเทศ
6. สามารถจำลองแบบระบบการวางแผนและทำนาย
เพื่อทดลองกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
7. อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสารนิเทศดีกว่าสมัยก่อน
ทำให้ผู้ใช้สารนิเทศมี
ทางเลือกที่ดีกว่า
มีประสิทธิภาพกว่า
และสามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้ดีกว่า
8. ลดอุปสรรคเกี่ยวกับเวลาและระยะทางระหว่างประเทศ
เทคโนโลยีสารนิเทศเบื้องต้นที่ควรนำมาใช้ในการดำเนินงานทั่วๆไป
คือ
การใช้เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในการจัดการข้อมูล
ในบรรดาองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารนิเทศทั้งหมด คอมพิวเตอร์ นับว่ามีบทบาทมากที่สุดต่อการเป็น
องค์ประกอบที่สำคัญ
คอมพิวเตอร์เป็น อุปกรณ์สื่อสารนิเทศที่มีบทบาทอย่างมากต่อสังคมสารนิเทศ
คอมพิวเตอร์ เปลี่ยนแปลงสภาพการให้บริการสารนิเทศในห้องสมุดจากการเสียเวลา สืบค้นสารนิเทศหลาย
ๆ
นาที
หรือหลายชั่วโมงมาเป็นเสียเวลา
เพียงไม่กี่วินาที
คอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงสภาพความเป็นอยู่ของคนในสังคม เป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตที่มีบทบาทยิ่งกว่าเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใด
ๆ
ที่มนุษย์ได้ผลิตขึ้นใช้ในโลกมาก่อน
คนในสังคมสมัยสังคมสารนิเทศจะเห็น พัฒนาการด้านนี้ได้อย่างเด่นชัด
นับตั้งแต่มีการประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์
ขึ้นใช้เป็นครั้งแรก
คอมพิวเตอร์ไม่ใช่เพียงสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่กลับเป็นสิ่งที่คนในสังคมสารนิเทศ
ต้องรู้จักและมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เป็นอุปกรณ์และองค์ประกอบที่สำคัญของเทคโนโลยีสารนิเทศ ที่บรรณารักษ์จะต้องนำมาใช้อยู่ตลอดเวลา
เครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนามาโดยลำดับ
ตั้งแต่ยุคแรก
(พ.ศ. 2487-2501)จนถึงยุคปัจจุบัน
(พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา)
ได้มีการนำเครื่อง คอมพิวเตอร์มาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
เช่น
งานจัดการเอกสารข้อมูลแบบ
ต่าง
ๆ
งานระบบสารนิเทศเพื่อการจัดการและงานด้านระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
(Decision
Support System) เป็นต้น
และจากการแข่งขัน ในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีราคาถูก และสามารถใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นในสังคมสารนิเทศ
ปัจจุบัน
ในสังคมสารนิเทศปัจจุบัน
กล่าวได้ว่า
คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท ในชีวิตประจำวันของคนในสังคมมากยิ่งขึ้น
บทบาทของคอมพิวเตอร์มีมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการสารนิเทศ และสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการสารนิเทศเพื่อใช้ประโยชน์
กับตนเองก็หลีกเลี่ยงการ
ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ด้านอื่น
ๆ
ไม่ได้
บทบาทของคอมพิวเตอร์ที่มีต่อการใช้สารนิเทศในสังคมมีดังต่อไปนี้
ด้านการศึกษา
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการศึกษา
แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
คือ
ใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษา และใช้เป็นเครื่องมือในการสอน การใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาเกี่ยวข้องกับการบริหารการศึกษา
ซึ่งผู้บริหารการศึกษา
จำเป็นต้องทราบสารนิเทศต่าง
ๆ
ทางด้าน
นักศึกษา
ด้านแผนการเรียน
ด้านบุคลากร
ด้านการเงิน
และด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ ข้อมูลแต่ละด้านที่ได้จากคอมพิวเตอร์
ผู้บริหารการศึกษาสามารถนำมาใช้ช่วย
ในการตัดสินใจได้
การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเป็นเครื่องมือในการสอน เป็นการช่วยให้ครูใช้ความรู้
ความสามารถพิเศษให้เป็นประโยชน์แก่ระบบการศึกษาได้มากขึ้น การนำคอมพิวเตอร์เข้า
มามีส่วนช่วยในการสอน และการศึกษามีประโยชน์ในเรื่องดังต่อไปนี้ คือ
1. เพื่อการสอนแบบตัวต่อตัว
2. เพื่อฝึกทักษะต่าง ๆ ในการเรียน
3. เพื่อการสาธิต
4. เพื่อการเล่นเกมและสถานการณ์จำลอง
5. เพื่อสอนงานด้านการเขียน
6. เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอน
7. เพื่อช่วยผู้เรียนที่มีปัญหาเฉพาะตัว
2. เพื่อฝึกทักษะต่าง ๆ ในการเรียน
3. เพื่อการสาธิต
4. เพื่อการเล่นเกมและสถานการณ์จำลอง
5. เพื่อสอนงานด้านการเขียน
6. เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอน
7. เพื่อช่วยผู้เรียนที่มีปัญหาเฉพาะตัว
ปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทต่อการศึกษาด้านภาษา
เป็นเพราะว่าแต่เดิมมานั้น คอมพิวเตอร์มีบทบาท
เฉพาะการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ ทั้งนี้เพราะคอมพิวเตอร์ได้รับการประดิษฐ์ขึ้นในประเทศที่ใช้
ภาษาอังกฤษ
แต่ในขณะนี้สังคมข่าวสารไม่
ได้สกัดกั้นในการรับรู้สารนิเทศในภาษาอื่น ๆ มีการสร้างโปรแกรม
ภาษาต่าง
ๆ
เช่น
ภาษาฝรั่งเศส
เยอรมัน
อิตาเลียน
รัสเซีย
สเปน
และแม้แต่ภาษาทางด้านตะวันออก
เช่น
ภาษาอารบิค จีน
ฮิบรู
ญี่ปุ่น
เกาหลี
การสร้างโปรแกรมภาษาต่าง
ๆ
จัดทำโดยผู้ที่รู้ภาษานั้น
ๆ
โดยตรง หรือผู้ที่สนใจในการสร้าง
โปรแกรมภาษาต่าง
ๆ
เช่น การสร้างโปรแกรม
การใช้ภาษาไทย
หรือ
ภาษาลาว
ตลอดจนการใช้โปรแกรมภาษาพม่าซึ่งประดิษฐ์ขึ้นโดย
วิศวกรไทย
คอมพิวเตอร์จะเป็นตัวกลางในการขจัดปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจภาษาระหว่าง
ชนชาติในอนาคต ในประเทศสหรัฐอเมริกา คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมีบทบาทในด้าน
การศึกษา มี การใช้คอมพิวเตอร์
มากขึ้นในระดับประถมศึกษา
และมัธยมศึกษา มีการคาดหมายว่าจะมีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในชั้นเรียน
จาก1:40 ในปี
พ.ศ. 2529 เป็น 1 ต่อ 20 ภายในปี
พ.ศ. 2533 คอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร
ทางด้านการศึกษาได้
เป็นอย่างดีไม่เฉพาะแต่ภายในสถานศึกษาเท่านั้น บริษัทเอกชนต่าง
ๆ สามารถนำคอมพิวเตอร์
มาใช้ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของตน
ให้ได้รับการศึกษา หรือฝึกอบรมในงานหน้าที่ได้เป็นอย่าง
ดีด้วย การใช้คอมพิวเตอร์
เพื่อการศึกษา
จะเป็นเรื่องธรรมดาในระบบการศึกษาต่อไป
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
คอมพิวเตอร์มีบทบาทอย่างสูงทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวย
ความสะดวก
อย่างยิ่งในด้านการแพทย์
เริ่มตั้งแต่การรักษาพยาบาล
ทั่ว
ๆไป
โรงพยาบาลบางแห่งใช้คอมพิวเตอร์
ในการทำทะเบียนคนไข้
ตลอดจนการวินิจฉัย
และรักษาโรคต่าง
ๆ จากการใช้ประโยชน์ของสารนิเทศที่ได้
จากเครื่องคอมพิวเตอร์
การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขอาจเกี่ยวข้องในด้านต่อไปนี้คือ ด้านการ
รักษาพยาบาลทั่วไป ด้านการบริหารการแพทย์
ด้านห้องทดลอง
ด้านตรวจวินิจฉัยโรค และด้านการศึกษา
และวิจัยทางการแพทย์
การใช้ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ด้านการแพทย์และ
สาธารณสุขที่สำคัญในปัจจุบันคือ
ด้านวินิจฉัยโรคและด้านการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถค้นคว้าข้อมูลทาง
การแพทย์เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
เป็นการพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และการสาธารณสุข
อย่างไม่หยุดยั้ง คอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการให้ข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยโรค สำหรับทำการรักษา
ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น ในวงการแพทย์เริ่มรู้จักใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่
เรียกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ (EMI
Scanner) เมื่อปี
พ.ศ. 2515 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้ถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจดูเนื้องอกพยาธิ
เลือดออกในสมองและความผิดปกติอื่น
ๆ
ในสมอง
ต่อมาได้พัฒนาให้ถ่ายภาพหน้าตัดได้ทั่วร่างกาย
เรียกชื่อว่าซีเอที (CAT-Computerized
Axial Tomographic Scanner) มีวิธีการฉายแสงเป็นจังหวะไปรอบ ๆ
ร่างกายของมนุษย์ที่ต้องการ
ถ่ายเอกซเรย์และเครื่องรับแสงเอ็กซเรย์ที่อยู่ตรงข้ามจะเปลี่ยนแสงเอกซเรย์ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าไปเก็บไว้ในจาน
หรือแถบแม่เหล็ก
แล้ว
นำสัญญาณไฟฟ้าเหล่านี้เข้าไปวิเคราะห์ในเครื่องคอมพิวเ
ตอร์
ซึ่งเมื่อได้ผลลัพธ์ออกมาก็นำไป
เก็บในส่วนความจำ
และพิมพ์ภาพออกมาหรือแสดงเป็นภาพทางจอโทรทัศน์
เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จึงเป็นตัวอย่าง
ของการใช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยและรักษาโรค
ด้านอุตสาหกรรม
คอมพิวเตอร์มีส่วนช่วยพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์หุ่นยนต์
เพื่อใช้ในบ้านและหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
ทั้งนี้หุ่นยนต์จะเป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบการทำงานของอวัยวะ
ส่วนบนของมนุษย์ ประกอบด้วยระบบทางกลของหุ่นยนต์
และระบบควบคุมหุ่นยนต์
ประกอบด้วยอุปกรณ์ควบคุม
ซึ่งควบคุมการทำงานของ
หุ่นยนต์โดยอัตโนมัติด้วยคอมพิวเตอร์
นับเป็นส่วนสำคัญที่สุดของหุ่นยนต์
ระบบควบคุมนี้ทำหน้า
ที่เป็นสมองเก็บข้อมูลสั่งหุ่นยนต์
ให้ทำงานตรวจสอบและควบคุมรายละเอียดของการทำงาน
ให้ถูกต้อง การประดิษฐ์หุ่นยนต์อุตสาหกรรมอำนวยประโยชน์ในการช่วยทำงานใน
อุตสาหกรรมที่สำคัญคือ งานที่ต้องเสี่ยงภัยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น
โรงงานยา
ฆ่าแมลง
โรงงานสารเคมี ง
านที่ต้องการความละเอียด
ถูกต้อง
และรวดเร็ว
เช่น
โรงงาน
ทำฟันเฟืองนาฬิกา
โรงงานทำเลนส์กล้องถ่ายรูป และงานที่ต้องทำซ้ำ
ๆ
ซาก
ๆ และ
น่าเบื่อหน่าย เช่น
โรงงานประกอบรถยนต์
โรงงานประกอบวงจรเบ็ดเสร็จ
หรือไอซี
และโรงงานทำแบตเตอรี่
เป็นต้น
การประดิษฐ์สิ่งของหรือผลิตภัณฑ์บางอย่าง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทอย่างสูงต่อการ
ควบคุม
การผลิตสินค้าโดยไม่ต้องใช้แรงงานคนมากเป็นการประหยัดแรงงาน นอกจากด้านการผลิตสินค้าแล้ว
คอมพิวเตอร์ยังมีส่วนช่วยต่อการจัด
ส่งสินค้า ตามใบสั่งสินค้า
การควบคุมวัสดุคงคลัง
และการคิดราคาต้นทุนสินค้า
เป็นต้น
ด้านเกษตรกรรม
การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม
ได้แก่
การจัดทำระบบ
ข้อมูลเพื่อการเกษตร
ซึ่งอาจมีทั้งระดับท้องถิ่น
ระดับชาติ
และระดับนานาชาติ
สำหรับระดับ
นานาชาตินั้น อาจจะเริ่มด้วย
สำมะโนเกษตรนานาชาติ
ซึ่งสถาบันการเกษตรระหว่างประ
เทศ
(International
Institute of Agriculture) ได้เริ่มต้นตั้งแต่
พ.ศ. 2473โดยมีประเทศต่าง ๆ
ร่วมเก็บข้อมูล
รวม 46 ประเทศ
ต่อมาองค์การอาหารและเกษตร(FAO) ได้ดำเนินงานต่อในปี
พ.ศ. 2493 และมีประเทศต่าง
ๆ
ร่วมโครงการเพิ่มเติมมากขึ้นทำให้ประเทศต่าง
ๆ
ทั่วโลกได้ข้อมูลเพื่อเกษตรกรรมทางด้านสำมะโนเกษตร นอกจากนี้ยังใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทำแบบจำลอง
พยากรณ์ความต้องการ
พยากรณ์ผลผลิตด้าน
การเกษตร
เป็นต้น
ด้านการเงินการธนาคาร
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการเงินและการธนาคาร
เป็นการนำคอมพิวเตอร์มา ช่วยในงานด้านการบัญชี
และด้านการบริหาร การฝากถอนเงิน การรับจ่าย
การโอนเงิน
แบบอิเล็กทรอนิกส์ การหักบัญชีอัตโนมัติ
ด้านสินเชื่อ
ด้านแลกเปลี่ยนเงินตรา
บริการข่าว
สารการธนาคาร
บริการฝากถอนเงินนอกเวลาและบริการอื่น
ๆ
การใช้คอมพิวเตอร์ด้านการเงินการธนาคารที่ประชาชนรู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ บริการฝากถอนเงินนอกเวลา
ซึ่งมีใช้กันทั้งในต่างประเทศและในประเทศ
ไทย ซึ่งเรียกชื่อว่าบริการเงินด่วน หรือบริการเอทีเอ็ม
( Automatic
Teller Machine - ATM ) ที่ธนาคารต่าง
ๆ
สามารถให้บริการเงินด่วนแก่ลูกค้าได้
ทำให้เกิด
ความสะดวกรวดเร็วต่อการใช้เงินในการดำเนินงานทางธุรกิจต่างๆ
ได้
ด้านธุรกิจการบิน
ธุรกิจสายการบินมีความจำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์มาใช้ เพื่อให้สามารถให้บริการได้รวดเร็ว เพื่อการแข่งขันกับ
สายการบินอื่น
ๆ
และเพื่อรักษาความปลอดภัยในการบินโดยช่วยตรวจสอบสภาพเครื่องและอุปกรณ์ได้
อย่างถูกต้องแน่นอนและสม่ำเสมอ ธุรกิจที่มีการนำ
คอมพิวเตอร์มาใช้ด้านการบิน อาจแบ่งเป็น 3 ประเภท
คือ
ผู้โดยสาร
สินค้าพัสดุภัณฑ์
และ
บริการอื่น
ๆ
ของสายการบิน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน
คือระบบบริการผู้โดยสาร
อาจจะ
เริ่มด้วยระบบบันทึกตารางการบิน
ซึ่งบันทึกและเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลเที่ยวบิน
เส้นทางบิน
เวลาออกและเวลาถึง
จำนวนที่นั่ง
สารนิเทศด้านการบริการผู้โดยสารมีความสำคัญอย่างมาก และจำเป็นต้องได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากปัญหาทางด้านเวลา และสถานที่ รายการบินต่าง
ๆ
จึงได้แข่งขันในการสร้างฐานข้อมูล
ทางด้านนี้
บางสายการบินได้รวมตัวกัน
เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการใช้สารนิเทศร่วมกัน
ด้านกฎหมายและการปกครอง
ทางด้านกฎหมายและการปกครอง
มีการใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหาด้านกฎหมาย คืองานระบบข้อมูล
ทางกฎหมายมีการนำสารนิเทศที่เกี่ยวข้องกับตัวบทกฎหมายทุกฉบับ
รัฐธรรมนูญทุกฉบับ กฎหมายอาญา
กฎหมายแพ่ง
พระราชบัญญัติ
พระราชกำหนด
พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวงประกาศต่างๆและอื่น
ๆ
เข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์จะ
ช่วยในการค้นสารนิเทศทางด้านกฏหมายได้อย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างในประเทศ
สหรัฐอเมริกา
มีการใช้คอมพิวเตอร์ระบบแอสเปน
(Aspen
System Corporation) ซึ่งเป็นระบบข้อมูล
ทางด้านกฎหมายที่ใช้กันมากกว่า 50 แห่ง
นักกฎหมายและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงได้ประโยชน์ในการ
ค้นสารนิเทศในเวลา
อันรวดเร็ว โดยเฉพาะในการค้นข้อมูลเกี่ยวกับคดีต่าง
ๆ
ที่เคยเกิดขึ้น
แล้ว
เป็นต้น แทนที่จะค้นจากหนังสือ
ซึ่งต้องเสียเวลาเป็นอันมาก การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการปกครอง
ส่วนใหญ่ใช้ในกิจกรรมการเลือกตั้งดัง
เช่นในประเทศไทย
เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาล่าสุด
มีการใช้คอมพิวเตอร์มาประมวล
ผลข้อมูลการเลือกตั้ง
ทำให้ประชาชนได้ทราบผลการเลือกตั้งได้อย่างรวดเร็ว
ด้านการทหารและตำรวจ
มีการใช้คอมพิวเตอร์ด้านการทหารและตำรวจ
อย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการทหารได้เจริญก้าวหน้าไปมากกว่า
ประเทศอื่นใดในโลก แต่ผลงานด้านนี้มักจะเป็น
ผลงาน
ชนิดลับสุดยอดต่าง
ๆ
เท่าที่พอจะ
ทราบกัน ได้แก่ การใช้คอมพิวเตอร์ในวงจรสื่อสารทหาร ใช้ในการควบคุม
ประสานงาน
ด้านการท
หารใช้แปลรหัสลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ ใช้ในการผลิตระเบิดนิว
เคลียร์ ใช้ในการทำสงครามจิตวิทยา ใช้ในการวิจัยเตรียมทำสงครามเชื้อโรค ใช้ในการสร้างขีปนาวุธ และใช้ในการส่ง
ดาวเทียม
จารกรรม เป็นต้น
กรมตำรวจ
กระทรวง
มหาดไทย
มีศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ มีคอมพิวเตอร์
ขนาดกลางใช้ทำทะเบียนปืน
ทำทะเบียนประวัติอาชญากรรม
ทำให้เกิดความสะดวกต่อการสืบสวนคดีต่าง
ๆ
ด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์และธุรกิจอื่น
ๆ
บทบาทของคอมพิวเตอร์ต่อธุรกิจอุตสาหกรรมการพิมพ์ในปัจจุบันมีมาก
หน่วยงานทางการพิมพ์ ตลอดจนสำนักข่าวใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดพิมพ์ต้นฉบับ
ตรวจแก้ไข จนกระทั่งจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม
ทำให้การจัดทำหนังสือพิมพ์
วารสาร
และหนังสือต่าง
ๆดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว
และถึงมือผู้อ่านได้อย่างทันท่วงที
อุตสาหกรรมการพิมพ์เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศต่าง
ๆ
อยู่ในขณะนี้
และเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารนิเทศ
มีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่คนงานในประเทศ
สหรัฐอเมริกากว่า 50 ล้านคนได้ใช้ประโยชน์จากการใช้คอมพิวเตอร์
ในการดำเนินงาน
ทางธุรกิจ
มีการใช้อุปกรณ์สื่อสารระบบสำนักงาน
อัตโนมัติและเทคโนโลยีโทรคมนาคมอื่น
ๆ
ร่วมกับคอมพิวเตอร์ทำให้การดำเนินงานทาง
ธุรกิจต่าง
ๆ
ดำเนินไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทำให้ธุรกิจต่าง
ๆ
ไม่มีปัญหา
ทางด้านระยะเวลา
และสถานที่ต่อการติดต่อทางธุรกิจอีกต่อไป
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ทางด้านวิทยาศาสตร์มีมาก
ในสถาบันการศึกษา
ตลอดจนสถาบันวิจัยต่าง
ๆ
มีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัยทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์เช่น การวิจัยในทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์
ซึ่งเป็นวิชาว่าด้วยส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของสสาร การค้นคว้าทดลองทางวิทยาศาสตร์สาขาต่าง
ๆ
ทำให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง
เช่น ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์มีการใช้คอมพิวเตอร์
ให้มีส่วนร่วมต่อการออกแบบโครงสร้าง
ทางวิศวกรรมที่ยุ่งยากสลับซับซ้อน ทำให้มีส่วนช่วยต่อการออกแบบ
ทางด้านวิศวกรรมและ
สถาปัตยกรรมได้อย่างไม่มีขอบเขตจำกัด
บทบาทของคอมพิวเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์จึงมี
ประโยชน์ต่อการพัฒนาข้อมูลสารนิเทศอย่างไม่หยุดยั้ง
จากการเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลสารนิเทศโดยระบบโทรคมนาคมคอมพิวเตอร์ มีบทบาทอย่างสูง
ต่อการให้บริการข้อมูลอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด ผู้ใช้สารนิเทศสามารถเรียกค้นข้อมูลจากผู้ให้บริการ
สารนิเทศตั้งแต่เรื่องทั่ว
ๆไปจนกระทั่งขอค้นรายละเอียดจากหนังสือสารานุกรมได้ และภายในบ้านเรือน คอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการใช้ของสมาชิกภายในครอบครัวทุกคนภายในบ้าน มีโอกาสได้เล่นเกมวีดิทัศน์
ด้วยความบันเทิงสนุกสนาน
และ
ศึกษาความรู้จากบทเรียนสำเร็จรูป
ไปด้วยในตัว คอมพิวเตอร์สำหรับบ้าน
เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็น
สำหรับนักธุรกิจในการจัดเตรียมจดหมาย
การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลสารนิเทศส่วนบุคคล
และ
การดำเนินงานกิจการต่าง
ๆ
ของสมาชิกภายในครอบครัว บทบาทของคอมพิวเตอร์ ยังมีอีกมากมายทางด้านต่าง
ๆ
ขึ้นอยู่กับผู้ใช้สารนิเทศ
ต้องการใช้ในด้านใด
คอมพิวเตอร์เมื่อนำมาใช้รวมกับระบบโทรคมนาคมการสื่อสาร
สามารถจะเปลี่ยนอนาคตของสังคมปัจจุบัน
เปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันของประชาชนต่อการทำ
กิจกรรมต่าง
ๆ สิ่งที่บรรณารักษ์จะหลีกเลี่ยงต่อไปไม่ได้ คือการนำเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดการข้อมูล
ภายในห้องสมุดโรงเรียน
นับตั้งแต่การนำมาใช้แทน
เครื่องพิมพ์ดีดในขอบเขตของงานเอกสาร
ตลอดจนกระทั่งถึงงานการให้บริการข้อมูลจากฐานข้อมูลสำเร็จรูป
หรือ
งานฐานข้อมูลที่สร้างขึ้นเอง